day 13: พฤหัสบดี 13 กุมภาพันธ์ 2557
เรายังร้อนใจเรื่องไม่ได้ของคืน พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เดาว่าเขาต้องยุ่งกับเดตสุดโรแมนติก ต่อจากนั้นเป็นวันเสาร์อาทิตย์ เขาต้องเดต จากนั้นพอจันทร์อังคารเขาก็คงใกล้ถึงเวลาบินไปเต็มที
ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะสะดวกเอาของมาคืนตอนไหนอีก
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมนึกขันกับเพื่อนโซเชียลเน็ตเวิร์กเก่าแก่ที่ทำตัวงี่เง่า งอนฉัน แล้ว unfriend กันไป จากนั้นก็มาขอ add friend อีก ฉันเห็นแล้วทำเฉยๆ ก็พบว่าได้รับคำขอทุกวัน รู้สึกรำคาญ แต่ไม่เท่ารำคาญคนที่พูดดีๆ ถามดีๆ แล้วไม่ได้คำตอบ จึงเขียนสเตตัสนี้ขึ้นมา
ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนสนใจมาถามรายละเอียดว่าเรื่องอะไรกัน แต่มี ฉันตอบไป และเพื่อความยุติธรรม ฉันจึงแก้ audience จาก custom เป็น public เผื่อมีใครบังเอิญเปิดมาเจอแล้วอยากจะตอบโต้ว่ามีอะไรที่ฉันเล่าไปที่มันไม่เป็นความจริงบ้าง
หลังจากนั้น เพื่อนสาวส่งข่าวมา เขาแจ้งมาทางข้อความว่าจะเอาของมาให้เช้าวันนี้เลย
ฉันตื่นเต้นนะ ยอมรับ แต่ยังคงไม่อาจเชื่อถือได้ว่าเขาจะทำตามที่พูด กระนั้นก็รบเร้าให้เพื่อนโทรกลับบ้านไปเช็คตั้งแต่บ่ายสองว่าของมาไหม มาครบไหม
เพื่อนเจ้ากรรมก็ยุ่งทั้งวัน ว่างโทรก็ตอนห้าโมงเย็นโน่น แล้วก็รายงานฉัน แม่บอกว่าเพิ่งมาเดี๋ยวนี้เอง มีจักรยานกับของกล่องใหญ่
ฉันร้อนใจ ยกเลิกธุระของตัวเอง ตรงกลับไปบ้านเพื่อน โอ แงซาย ได้เจอกันสักที คิดถึงจัง พ่อแม่เล่าว่าเขาไม่พูดอะไรเลย ที่จริงไม่ไหว้ทั้งทักทายและตอนลากลับด้วย มาถึงก็ขนของมาวาง ขนของตัวเองไป แล้วก็กลับ ..ฉันฟังแล้วได้แต่ส่ายหัว ถ้าขอจบแล้วไม่อยากคบกับฉัน จำเป็นต้องทำกริยาแบบนี้กับเพื่อนและพ่อแม่เพื่อนฉันด้วย?
ฉันเก็บข้าวของบางชิ้นที่พอเอากลับมาด้วยได้ใส่กระเป๋า ลาพ่อแม่เพื่อน ปั่นแงซายกลับบ้าน เหมือนคิดไว้ไม่มีผิด (ฉันเป็นแม่มดหรืออะไร ทำไมชอบเดาอะไรถูกนัก) ว่าแงซายต้องกลับมาโดยไม่มีตะแกรงหลังที่เขาเคยติดให้แล้วก่อนหน้านี้ มันถูกถอดออกจริงๆ แต่แปลกใจที่ตะแกรงหน้ายังอยู่ หรือมันแกะออกยากเพราะเกี่ยวกับเบรกชุดใหม่ที่เขาเปลี่ยนมา ตลกมาก เบรกหน้าใหม่เชี้ยบ แต่หลังยังเป็นชุดเก่า เปลี่ยนของใหม่ที่ใส่ให้แล้วออก หรือว่าที่จริงยังทำไม่เสร็จกันแน่นะ
ที่จริงฉันว่าเกียร์มันแปลกๆ ด้วย แต่ลองยาก ฉันหิ้วกระเป๋าใบใหญ่และหนักมาก รองเท้าก็ไม่เหมาะจะใส่ปั่น จึงได้แต่ปั่นช้าประคองตัวไปจนถึงบ้าน
เขาคืนของฉันเกือบครบนะ คงว่าเขาไม่ได้หรอก ของพวกนั้นฉันขนไปเอง เป็นของจุกจิกจำนวนเยอะมาก ที่จริงควรเป็นคนไปเก็บคืนเอง แต่ทำไงได้ล่ะ ถามว่าให้ไปช่วยเก็บของไหม เขาปฏิเสธทุกที
มองแงซายที่เปลี่ยนไป สเต็มถูกเปลี่ยนแล้ว ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับตัวเองไหม เบาะนั่นก็หน้าตาแปลกๆ ฉันแอบนึกถึงเบาะชิ้นเก่าที่เคยบอกพี่เต้ยว่าถ้าเปลี่ยนของใหม่จะเอาชิ้นนี้ไปคืน ทำไงดี คงไม่มีไปคืนพี่เต้ยแล้วสิ
สงบสติแล้วคิดอีกที แทนที่จะไม่พอใจกับเรื่องเล็กน้อย ต้องขอบคุณเขามากกว่า ที่อุตส่าห์รวบรวมสิ่งของมาคืนให้ ที่เคยอาสาทำจักรยานให้ ถึงแม้จะหมดรักกันเสียก่อนทำเสร็จ และที่จริงก็อุตส่าห์หายางให้รถเพื่อนฉันแล้ว แต่หาไม่ได้ก่อนที่จะหมดรักฉัน
เขารักได้ เขาก็หมดรักได้ เป็นเรื่องธรรมดา ตราบใดที่ฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้ก็คงถูกผูกอยู่กับทุกข์อยู่นั่น แต่ที่จริงฉันเข้าใจและรับได้เรื่องอนิจจังไม่เที่ยงนานแล้ว
การได้รับสิ่งของทั้งหมดทั้งของตัวเองและของเพื่อนคืนจากเขา มันเลยเหมือนได้รับการปลดปล่อย
ปลดปล่อยตัวเองที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
ต่อจากนี้เราก็แค่ ‘ไปตามทางของตัวเอง’ โดยไม่มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป
หมายเหตุ: เรื่องขอบคุณเขาฉันไม่ได้แค่คิด ส่งข้อความไปขอบคุณจริงๆ แต่มันก็เหมือนที่ผ่านมานั่นแหละ เขาอ่าน แต่ไม่ตอบ
เป็นกำลังใจให้นะ ตามอ่านอยู่ห่างๆ มานานแล้ว บางที จิตใจคนก็ยากจะเข้าใจ
แต่คุณเป็นคนดี น่ารัก และนิสัยดี ต้องมีคนดีๆ เข้ามาในชีวิตแน่นอน อย่าคิดมากนะ
เราอาจไมีรู้จักกัน และเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน แต่เราก็คุยกันได้ มีอะไรอยากระบายก็ระบายมาได้นะ สู้ๆ
ขอบคุณค่ะ ดีใจที่เขียนไปยังมีคนอ่าน
จิตใจคนเราเข้าใจยากจริง สำหรับตัวเองเรื่องเป็นคนดี นิสัยดี น่ารัก ยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่แน่ใจว่ามีชีวิตแวดล้อมไปด้วยคนดีๆ คนไม่ดีมักจะเด้งออกไปเองโดยไม่ต้องออกแรง
เรื่องความคิดคงห้ามยาก แต่ถ้าคิดแล้วคิดออก ก็คงไม่เสียแรงคิดเนอะ
เราอาจจะเป็นคนแปลกหน้า (แน่ใจหรอ?) แต่ต่อไปคงไม่แปลกเท่าก่อนนี้ มีโอกาสอาจได้คุยกันในเรื่องใหม่ๆ แต่คงไม่ระบายเรื่องนี้ละ เพราะเกือบไม่มีอะไรต้องระบายละค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะ 🙂
ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกค่ะ การที่เราไม่ตั้งคำถาม ทิ้งมันไว้แล้วเดินออกมา
เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ จากนี้ไปขอให้คุณ Friday พบเจอแต่เรื่องดีๆ คนดีๆ นะคะ
อยากจะบอกว่าคุณ Friday เป็นคนที่เท่ และเก๋มากๆ ค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ 🙂
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และขอบคุณที่อ่านนะคะ 🙂